News

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจอย่างสูงในสังคมไทย เมื่อมีรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแสดงพระเมตตาต่อ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี อดีตข้าราชบริพารในพระองค์ ซึ่งมีสถานะที่เป็นที่กล่าวถึงอยู่ตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากสำนักพระราชวังในวันดังกล่าว แต่รายงานจากแหล่งข่าวหลายแห่งระบุว่าพระองค์ทรงมีพระราชกระแสให้อนุญาตให้เจ้าคุณพระฯ เข้าร่วมในพิธีภายในระดับสูง ณ พระราชวังบางแห่ง ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งสำคัญ หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวลือหนาหูเรื่องการเปลี่ยนแปลงในสถานะของเธอ กระแสสังคมมีทั้งฝั่งที่แสดงความยินดีในพระเมตตา และฝั่งที่ยังมีข้อสงสัยต่อบทบาทของเจ้าคุณพระฯ ในราชสำนักปัจจุบัน บางกระแสตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจส่งผลต่อโครงสร้างภายในระดับบุคคลใกล้ชิดในพระองค์ในอนาคต

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเมตตา เจ้าคุณพระสินี้นาถ Read More

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว หลังมีการเผยแพร่ภาพของงานหนึ่งที่มีการจัดพิธีทางราชการ โดยมีป้ายระบุชื่อของหญิงผู้หนึ่งซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็น “ผู้แทนพระองค์” อย่างเป็นทางการ แต่ข้อความในป้ายดังกล่าวกลับถูกมองว่าขัดต่อจารีต ความเหมาะสม และหลักราชประเพณี ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงความถูกต้องตามขั้นตอนของราชพิธี รวมถึงสถานะของบุคคลที่ปรากฏในป้ายด้วย เสียงวิจารณ์จำนวนมากบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น  พุ่งเป้าไปที่ “ความเหมาะสมในการระบุชื่อและตำแหน่ง” โดยเฉพาะเมื่อเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับราชสำนัก ความคาดหวังเรื่องความรอบคอบและพิธีรีตรองจึงยิ่งสูงยิ่งขึ้น หลายคนมองว่าการปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดเช่นนี้ สะท้อนถึงความบกพร่องของผู้จัดงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากกระแสกดดันจากสาธารณชน ป้ายดังกล่าวก็ถูกถอดออกอย่างเงียบ ๆ ภายในเวลาไม่นาน โดยไม่มีคำชี้แจงจากหน่วยงานเจ้าภาพหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้จุดประกายให้เกิดการพูดถึงมาตรฐานการจัดงานราชพิธีในปัจจุบัน และการตรวจสอบรายชื่อผู้ทำหน้าที่ในนามของพระองค์

ป้ายงานที่ผู้จัดงานผู้หญิงท่านนี้ ไปเป็นผู้แทนพระองค์ โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก่อนถูกปลดลง Read More

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 17.24 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อทรงเปิดสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์สากล มาตรฐาน BGCI (Botanic Gardens Conservation International) และสวนจากภูผาสู่มหานที ในโอกาสนี้ ทรงทอดพระเนตรการแสดงดนตรีโดยวงเฉลิมราชย์ ควบคุมวงโดยนายวิรัช อยู่ถาวร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) …

เกิดอะไรขึ้นกับผู้ใหญท่านนี้่‼️…ท่านผู้นี้คือใคร? -ในหลวง,พระราชินี เสด็จฯทรงเปิดสวนสมเด็จ Read More

ประวัติส่วนตัว ชื่อเดิม: นิรมล อุ่นพรม วันเกิด: 26 มกราคม พ.ศ. 2528 ภูมิลำเนา: อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน การศึกษา: ระดับประถมศึกษา: โรงเรียนราชปิโยรสา ยุพราชานุสรณ์ ระดับมัธยมศึกษา: โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ระดับปริญญาตรี: พยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก รุ่นที่ 41 (จบปี พ.ศ. 2551) หลังสำเร็จการศึกษา เจ้าคุณพระสินีนาฏเริ่มต้นอาชีพเป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลอานันทมหิดล กองทัพบก . …

ประวัติ เจ้าคุณพระสินีนาฎพิลาสกัลยาณี Read More

กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกโซเชียลและสื่อวงใน เมื่อมีข่าวหลุดออกมาว่า “เสี่ยโอ” ได้จัดงานวันเกิดอย่างยิ่งใหญ่ให้กับ “ก้อย” ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดคนใหม่ ท่ามกลางความสนใจของแขกผู้มีเกียรติและบุคคลระดับสูงในสังคม ขณะที่อีกฝ่ายคือ “นุ้ย” ผู้เคยเป็นคนสำคัญในชีวิตของเสี่ยโอ กลับได้รับงานที่เล็กกว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แหล่งข่าวเผยว่า นุ้ยถึงกับ “ปรี๊ดแตก” เมื่อทราบรายละเอียดของงาน ซึ่งเต็มไปด้วยการประดับตกแต่งหรูหรา แขกวีไอพีจากแวดวงธุรกิจและการเมือง พร้อมโชว์สุดอลังการที่ถูกจัดขึ้นกลางกรุงเทพฯ ซึ่งต่างจากงานวันเกิดของเธอที่จัดแบบเรียบง่ายและไร้พิธีรีตรอง ในกลุ่มคนสนิท ยังมีการพูดกันว่า นี่อาจไม่ใช่แค่เรื่องวันเกิด แต่เป็น “สัญญาณเปลี่ยนตัวคนโปรด” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวงใน ซึ่งอาจส่งผลต่อดุลอำนาจ ความสัมพันธ์ และโครงการต่าง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีเอี่ยวอยู่

ข่าว ช็อกทั้งประเทศ! นุ้ย ปรี๊ดแตก! เสี่ยโอ จัดวัดเกิดก้อย ใหญ่กว่า นุ้ย Read More

กระแสการเมืองในร่มเงาราชสำนักกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อมีข่าวลือสะพัดว่า “ท่านอ้น” ได้เข้าพบ เสี่ยโอ อย่างไม่เป็นทางการ โดยมีบุคคลระดับสูงอีกสองคนร่วมวงด้วย ได้แก่ ท่านอ้วน และ ท่านอิน ซึ่งมีบทบาทและความเชื่อมโยงกับสายสืบราชสำนักเก่า การพูดคุยครั้งนี้มีรายงานว่า “ท่านอ้น” ได้พูดอย่างชัดเจนถึงความเคลื่อนไหวสำคัญในสายราชสกุล — โดยเฉพาะประเด็น การขยับขึ้นสู่สถานะ “รัชกาลที่ 11” แทนที่ เจ้าฟ้าทีปังกรฯ ซึ่งแม้จะไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่คำพูดและท่าทีของทุกฝ่ายกลับส่อให้เห็นความตึงเครียดภายใน แหล่งข่าวยังชี้ว่า การปรากฏตัวของทั้งสามไม่ได้เป็นเพียงการพบปะส่วนตัว แต่เป็นสัญญาณของการจัดวางขั้วอำนาจใหม่ ในห้วงที่ประชาชนยังไม่เห็นความชัดเจนเรื่องการสืบราชสมบัติทั้งนี้ ผู้ใกล้ชิดราชสำนักหลายฝ่ายยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ …

ท่านอ้น เข้าพบ เสี่ยโอ พูดชัด! ชิง ร.11 แทน ทีปังกร มาพร้อมกับท่านอ้วน ท่านอิน | เรื่องเด่นวันนี้ Read More

จนถึงปัจจุบัน (พฤษภาคม พ.ศ. 2568) ประเทศไทยยังไม่มี “รัชกาลที่ 11” อย่างเป็นทางการ ตามลำดับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งเริ่มต้นจาก รัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2325) จนถึง รัชกาลปัจจุบัน คือ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ที่ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2559 ดังนั้น: “รัชกาลที่ 11” ยังไม่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์จริง หากมีการพูดถึงรัชกาลที่ 11 ในบทความหรือสื่อใด …

รัชกาลที่ 11 เกิดอะไรขึ้นในพระราชประวัติ? Read More

เช้าวันจันทร์อันเงียบเหงา ข่าวสั้นบรรทัดเดียวจากสถานีข่าวต่างประเทศทำให้โลกออนไลน์ของไทยสะเทือน “เจ้าชายทีปังกร เสด็จออกนอกประเทศโดยไม่มีกำหนดกลับ” ไม่มีภาพ ไม่มีคำชี้แจง ไม่มีแม้แต่ประกาศอย่างเป็นทางการ เสียงลือกระจายไปไวกว่าไฟป่าในฤดูแล้งสำหรับประชาชนที่เฝ้ามองเจ้าชายหนุ่มในฐานะความหวังของราชวงศ์ การเดินทางที่ไร้คำอธิบายนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกสูญเสีย—โดยเฉพาะเมื่อโยงเข้ากับบุคคลที่หายไปจากภาพข่าวมานานแรมปี… ศรีรัศมิ์ สุวดี มารดาผู้เคยมีบทบาทสำคัญในอดีต “พวกเขาถูกแยกจากกันตั้งแต่เขายังเยาว์วัย แล้ววันนี้ เขาจากแผ่นดินไปโดยไร้แม่เคียงข้าง” ผู้สูงวัยคนหนึ่งพูดขณะดูข่าวด้วยแววตาเศร้าไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังการเดินทางครั้งนี้คืออะไร—ภารกิจ, ความขัดแย้ง หรือบางสิ่งที่ประชาชนไม่ควรรับรู้แต่สำหรับแฟนๆ ที่เฝ้าติดตามข่าวคราวของเจ้าชายทีปังกรและศรีรัศมิ์ ความเงียบของข่าวไม่ใช่ความสงบ หากแต่คือคำถามที่ไร้คำตอบและในเงามืดของราชวัง… บางครั้งความจริงก็ถูกปิดไว้แน่นหนากว่าบานประตูทอง

ข่าวร้ายสำหรับแฟนๆ เจ้าชายทีปังกร และ ศรีรัศมิ์ สุวดี Read More

ในค่ำคืนอันเงียบงัน ณ วัดป่าห่างไกลทางภาคอีสาน พระเกจิอาวุโสรูปหนึ่งนั่งหลับตาสงบนิ่ง ในมือท่านมีผืนผ้าขาวเก่าแก่จารึกอักขระโบราณ ด้านหนึ่งมีตัวเลขและคำทำนายลับเกี่ยวกับ “ห้าพระชายา” ในรัชสมัยที่สิบ — คำทำนายที่ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนมาก่อน “ในรัชกาลนั้น หญิงห้าคนจะขึ้นชื่อในวัง แต่มีเพียงหนึ่งที่จะอยู่จนจบบัลลังก์” เสียงของพระเกจิกล่าวในวงสนทนาแคบ ๆ ท่ามกลางศิษย์ผู้ศรัทธาไม่นานหลังจากนั้น เหตุการณ์ภายในวังหลวงก็เริ่มสอดคล้องกับถ้อยคำปริศนา: การเปลี่ยนสถานะของหญิงผู้หนึ่ง การหายตัวของอีกคน และข่าวลือที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งเกี่ยวกับการแต่งตั้งและปลดตำแหน่งภรรยาในราชสำนัก เรื่องนี้เริ่มกลายเป็นกระแสในหมู่คนใกล้ชิด และแม้ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ผู้คนเริ่มเปรียบเทียบคำทำนายกับความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า“อย่าเพิ่งเชื่อ ถ้ายังไม่ได้ฟังทั้งหมด” พระเกจิกล่าวอีกครั้ง ก่อนเงียบลงราวกับรู้ว่า… ยังมีบางสิ่งที่โลกภายนอกไม่พร้อมจะรับรู้เรื่องราวของ “ห้าหญิงหนึ่งบัลลังก์” อาจไม่ใช่เพียงตำนาน แต่คือพระลิขิต… …

คำทำนาย ได้เป็นจริง!? พระชะตา พระชายาทั้ง 5 พระองค์ ใน ร 10 จากพระเกจิ อย่าพึ่งเชื่อถ้ายังไม่ได้ฟัง Read More

หลายเดือนแล้วที่ชื่อของ เจ้าคุณพระสินีนาฏ ไม่ปรากฏบนหน้าสื่อ ไม่มีภาพ ไม่มีข่าว ไม่มีแม้แต่การเอ่ยถึงจากแหล่งใด ภายใต้โลกของพิธีการอันเงียบงัน การหายตัวไปของพระองค์กลับกลายเป็นเสียงกระซิบที่ดังก้องอยู่ในหมู่ข้าราชบริพารและผู้รู้เบื้องลึกแต่ในเช้าวันหนึ่ง ข่าวด่วนจากแหล่งข่าวลับได้แพร่กระจายออกมา — เอกสารชุดหนึ่งรั่วไหล เป็นจดหมายลายพระหัตถ์ที่ไม่เคยถูกเผยแพร่ พร้อมภาพถ่ายเก่าแก่ภายในวังหลวงที่แสดงให้เห็นเจ้าคุณพระฯ ในมุมที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน “เบื้องหลังรอยยิ้มของข้าพเจ้า…คือสิ่งที่ไม่อาจกล่าว” นั่นคือประโยคหนึ่งในจดหมาย ที่กลายเป็นไฟลุกลามในหมู่สื่อและประชาชน จู่ ๆ รายชื่อบุคคลระดับสูงหลายรายก็ถูกโยงเข้ากับการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของพระองค์ ใครกันที่มีอำนาจมากพอจะลบตัวตนของบุคคลสำคัญได้? หรือทั้งหมดเป็นการเลือกเงียบ…เพื่อปกป้องอะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่าตัวเอง?แม้เรื่องราวจะยังไม่กระจ่าง แต่ความลับไม่มีวันอยู่ในเงามืดตลอดไป เพราะบางเงา…ก็ทิ้งร่องรอยไว้ให้คนที่กล้าจะตาม

ข่าวด่วน! ความลับ เรื่องราว ด้านหลัง หายไป ของ. เจ้าคุณพระสินีนาฏ Read More